top of page

7 กลยุทธ์และเทรนด์ที่จะช่วยธุรกิจให้เติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

รูปภาพนักเขียน: MindDoJo ThailandMindDoJo Thailand


ปี 2025 จะเป็นปีที่การขายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงจากเดิม โดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์เหล่านี้จะมีโอกาสเติบโตและประสบความสำเร็จ ในบทความนี้เราจะพูดถึง “เทรนด์และกลยุทธ์การขายที่ธุรกิจควรรู้” เพื่อก้าวไปข้างหน้าในปี 2025

1.การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้า

ในปี 2025 AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าและคาดการณ์สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างเช่น

  • การใช้ AI ในการแนะนำสินค้า แพลตฟอร์มการขายออนไลน์สามารถใช้ AI เพื่อแนะนำสินค้าที่ลูกค้าอาจจะสนใจจากการวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อในอดีต

  • การให้คำแนะนำในแบบเรียลไทม์ แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตอบคำถามลูกค้าและช่วยเหลือในการตัดสินใจซื้อสินค้าแบบทันที

การนำ AI มาใช้ในการขายจะช่วยให้ธุรกิจ “ลดเวลาในการบริการลูกค้า” และทำให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้ามีความสะดวกสบายและตรงใจมากขึ้น


2.การขายผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Commerce) ที่กำลังเติบโต

การขายผ่าน โซเชียลมีเดีย จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขายในปี 2025 โดยเฉพาะกับการที่ผู้บริโภคเชื่อมต่อกับแบรนด์ผ่าน Instagram Facebook TikTok หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ มากขึ้น ธุรกิจจะต้อง

  • สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ การใช้วิดีโอ การสตรีมสด หรือการรีวิวจากผู้ใช้จะทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าในมุมมองที่น่าสนใจ

  • การทำการตลาดที่เป็นธรรมชาติ การใช้ Influencers หรือผู้มีชื่อเสียงที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตาม จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และกระตุ้นยอดขาย

  • การขายตรงจากโพสต์ (Shoppable Posts) การทำให้ลูกค้าสามารถคลิกและซื้อสินค้าจากโพสต์บนโซเชียลมีเดียได้ทันทีจะทำให้กระบวนการซื้อสินค้าสะดวกและรวดเร็ว


3.การผสานประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์ (Omnichannel Strategy)

ลูกค้าในปี 2025 ต้องการประสบการณ์การซื้อที่ไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์หรือที่ร้านค้า องค์กรที่สามารถสร้างประสบการณ์ omnichannel ที่ยอดเยี่ยม จะได้เปรียบในการแข่งขัน โดยการ

  • ให้ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางการซื้อ เช่น การเลือกซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์และไปรับที่ร้าน หรือการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์แล้วให้บริการส่งที่บ้าน

  • ข้อมูลและการบริการที่เชื่อมต่อ ข้อมูลที่ลูกค้าได้รับจากช่องทางต่าง ๆ เช่น ร้านค้าออนไลน์และในร้านจะต้องเชื่อมโยงกัน เช่น ลูกค้าสามารถเช็คสินค้าที่มีในสต็อกหรือรับบริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน


4.การปรับกลยุทธ์การขายให้ยั่งยืนและมีจริยธรรม (Sustainable and Ethical Selling)

ลูกค้าในปี 2025 ให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าที่มีความยั่งยืนและมีจริยธรรมมากขึ้น ธุรกิจที่มีกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการนี้จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้

  • การใช้วัสดุที่ยั่งยืน การนำเสนอสินค้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่ยั่งยืนสามารถสร้างความแตกต่างในตลาด

  • การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การที่แบรนด์แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมหรือการช่วยเหลือชุมชน จะทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์

  • การโปร่งใสในกระบวนการผลิต ผู้บริโภคในยุคนี้ต้องการรู้ที่มาของสินค้า การเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและซัพพลายเชนจะช่วยเสริมความไว้วางใจ


5.การใช้เทคโนโลยีเสียง (Voice Commerce)

การซื้อสินค้าผ่านการสั่งการด้วยเสียง (voice commerce) จะกลายเป็นแนวโน้มสำคัญในปี 2025 โดยผู้บริโภคจะสามารถทำการซื้อสินค้าได้ผ่านผู้ช่วยเสียงอย่าง Alexa Google Assistant หรือ Siri การที่ธุรกิจปรับตัวและเพิ่มการรองรับการสั่งซื้อผ่านเสียงจะช่วยเพิ่มช่องทางการขาย

  • การใช้คำสั่งเสียงในการค้นหาสินค้า ลูกค้าสามารถค้นหาหรือสั่งซื้อสินค้าผ่านเสียงได้สะดวกมากขึ้น

  • การปรับกลยุทธ์ SEO สำหรับเสียง การทำ SEO ให้เหมาะสมกับคำค้นหาที่มักใช้ในคำสั่งเสียง เช่น คำถามหรือคำค้นหาที่เป็นธรรมชาติ


6.การพัฒนาทักษะทีมขายให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

การขายในปี 2025 จะไม่เหมือนเดิม ทีมขายต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะทางเทคโนโลยี ทีมขายต้องเรียนรู้การใช้เครื่องมือใหม่ ๆ เช่น CRM อัจฉริยะ, ระบบอัตโนมัติ, และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล

  • การปรับตัวให้เร็ว การพัฒนาเทคนิคการขายที่เหมาะสมกับการตลาดที่ดิจิทัลจะเป็นความท้าทายที่สำคัญ


7.การมุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience)

การทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่ธุรกิจในปี 2025 ต้องให้ความสำคัญ

  • การปรับแต่งประสบการณ์การซื้อให้ตรงใจลูกค้า การใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอข้อเสนอพิเศษที่ตรงตามความต้องการ

  • การบริการลูกค้าในระดับสูง ลูกค้าต้องการการบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีจะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ


การขายในปี 2025 จะเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่น โดยมีความสำคัญที่การปรับตัวและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้บริโภค ธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้จะมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 
 
 

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating

สมัครรับข่าวสารใหม่ ๆ 

และทรัพยากร MindDoJo

bottom of page